5 ทิศทางที่ Digital Disruption จะเข้ามาเปลี่ยนธุรกิจ
การเปลี่ยนแปลงนำมาซึ่งการแสดงออกใหม่ เพื่อนำสิ่งใหม่ ๆ และสิ่งที่มีอยู่มาใช้ประโยชน์ได้ดีกว่าเดิม ทั้งในด้านของกระบวนการทำงานและกระบวนการคิด ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจะทำให้เกิด “การปฏิรูป” ที่จะช่วยชี้นำให้องค์กรนั้นอยู่รอดและเติบโตได้ในอนาคต
ไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับ Digital Disruption ซึ่งเป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่สร้างผลกระทบต่อองค์กร อันเป็นผลมาจากการเข้ามาของเทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ ๆ ในบริษัทและตลาด ด้วยการเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างใหญ่อาจทำให้ธุรกิจหนึ่งต้องปรับเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจจากแบบเดิมไปใช้เครื่องมือดิจิทัล ที่จะเข้ามาช่วยทำให้ธุรกิจก้าวหน้ากว่าเดิมและตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน ทั้งการผลิต การดำเนินงานภายในองค์กร และการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า
- การเปลี่ยนแปลงทางความคิด
การเข้ามาของเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Technology) จะส่งผลกระทบต่อทุกคนในบริษัท โดยเฉพาะหัวหน้า หรือผู้จัดการ ซึ่งจะต้องมีความรับผิดชอบเพิ่มมากขึ้น ยิ่งทำให้บุคคลเหล่านี้มีส่วนร่วมในกระบวนการเปลี่ยนแปลงมากกว่าเดิม ตัววิสัยทัศน์ไม่สามารถเป็นกลยุทธ์ได้อีกต่อไปท่ามกลางการเกิดขึ้นของเทคโนโลยีใหม่ ๆ แต่ต้องมุ่งไปที่ความสำเร็จของบริษัท และคิดเกี่ยวกับผลที่ตามมา
Digital Disruption ตามชื่อของมันคือการหยุดชะงัก แต่ถูกนำมาใช้ในบริบทของการปฏิรูป เพื่อเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งใหม่ ๆ โดยมีเทคโนโลยีในการนำพาให้ธุรกิจไปได้ไกลกว่าเดิม นอกจาก Digital Disruption จะเปลี่ยนแปลงการะบวนการทำงานแล้ว ยังรวมถึงการคิดแบบดิจิทัล (Think Digital) ด้วย
- วิธีการทำงานใหม่ ๆ
Digital Technology ถูกใช้ในชีวิตประจำวันของทุกบริษัทมาหลายสิบปี และมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทุกวันนี้บริษัทจะไม่สามารถดำเนินงานได้ หากไม่ได้พึ่งพาเทคโนโลยีเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเทคโนโลยีที่กว้างขวางช่วยให้พวกเขาสามารถทำงานได้ง่าย และสะดวกมากยิ่งขึ้น อาทิเช่น ใช้ Social Monitoring เพื่อติดตามความคิดเห็นของผู้บริโภคบน Social Media แทนการสำรวจความคิดเห็นแบบเดิม เป็นต้น
- วิธีการติดต่อลูกค้าที่แตกต่างกัน
ลูกค้า คือศูนย์กลางของการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล เทคโนโลยีใหม่ ๆ ทำให้ผู้ใช้และบริษัท มีโอกาสในการติดต่อสื่อสาร และสร้างความสัมพันธ์ได้ง่ายมากขึ้น ไม่กี่ปี่ที่ผ่านมานี้ เครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Media), แอปพลิเคชั่น (Application), ร้านค้าออนไลน์ (Online Shopping) หรือสังคมเสมือนจริง (Virtual Community) ได้เข้ามามีบทบาทในการติดต่อสื่อสารมากขึ้น หลาย ๆ ธุรกิจจะมีช่องทางให้บริการลูกค้าผ่านช่องทางเหล่านี้ เพื่อตอบรับกับพฤติกกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค
- เปลี่ยนแปลงไปสู่การตลาดดิจิทัล
การตลาดดิจิทัล (Digital Market) แตกต่างจากการตลาดแบบดั้งเดิม ทำให้การแข่งขันยิ่งทวีคูณเพิ่มขึ้นอีก ด้วยเครื่องมือ Digital Technology จะเปลี่ยนช่องทางการสื่อสารกับลูกค้า
นอกจากนี้ตลาดดิจิตอลยังมีการผสมผสานกับตลาดดั้งเดิม ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดเดิมอย่างแน่นอน ดังนั้นบริษัทที่ไม่ยอมปรับเปลี่ยน และไม่นำ Digital Technology มาใช้ในการกระบวนการทำงาน ธุรกิจแบบเดิมของพวกเขาจะได้รับผลกระทบไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ท่ามกลางคู่แข่งที่เพิ่มมากขึ้น คุณคิดว่า คุณจะเอาชนะพวกเขาได้อย่างไร หากคุณยังไม่เริ่มปรับตัว
นี่คือตัวอย่างของ Digital Disruption ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจและตลาด ดังที่เราได้เห็นกันไปแล้วว่า เทคโนโลยีในปัจจุบันเป็นพื้นฐานสำหรับการทำงานของบริษัทส่วนใหญ่ และในบางครั้งมันก็มากจนต้องให้ความสนใจเป็นอันดับแรก อาทิเช่น ธนาคารหันมาให้บริการบนออนไลน์มากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน